3A Flickr Group

www.flickr.com
items in 3A Toys

Category Link

ข้อมูลทั่วไป: รู้จักกับของเล่น ThreeA / วิธีซื้อสินค้า ThreeA
Popbot Universe: Tomorrow King / Popbot Story /
World War Robot: Nom De Plume / NOM Commanders
Adventure Kartej: อยู่ระหว่างจัดทำ

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เรื่องย่อ Popbot Universe โดยคุณ (Kira_Rules/Alu Card)

POPBOT
Story:  Ashley Wood and T.P. Louise
Art by:  Ashley Wood

เนื่อเรื่องย่อ: เรียบเรียงโดยคุณ (Kira_Rules/Alu Card)

PART I

เหตุการณ์หลักของเนื้อเรื่องทั้งหมดคือ เป็นสงครามการต่อสู้กันระหว่าง กลุ่มหุ่นยนต์ Mortis โดยการนำของ Mortis Queen กับ มนุษย์โลก

ต้นเหตุของสงครามนั้นเกิดมาจากในยุค 60 มีวิศวกรไบโอ ได้ทำการออกแบบสร้างหุ่นยนต์ (รูปร่างเลียนแบบมนุษย์เพศหญิง) ขึ้น เพื่อใช้ตอบสนองความต้องการทางเพจ(เจอร์)ของมนุษย์ ซึ่งก็คือ Nature Mortis เรียกสั้นๆว่า Mortis ครับ ลองจินตนาการตามดูนะครับ รูปร่างจะเป็นประมาณหุ่นลองเสื้อ หน้าตาและหุ่นดีเรียกว่า appealing มี AI ในตัว (ประมาณคอมรุ่น commandore 64 เก๋ากึก) แล้วก็ผสมกับเครื่องดูดฝุ่น (ซึ่งจะไว้ทำอะไรคิดกันเอาเอง  )

ตอนแรกๆที่มี Mortis ออกมาแน่นอนว่าเป็นที่นิยมสุดๆ แต่ด้วยว่าไม่ได้มีการออกแบบให้มีชีวิตจิตใจ คิดอะไรเองก็ไม่ได้ มนุษย์เราๆก็เลยเริ่มเบื่อเจ้า Mortis เหล่านี้ ทางผู้ผลิตเค้าเลยมีการเพิ่มความฉลาดให้ AI ขึ้นมาจะได้ขายออก คือโดยในขณะที่มีกิจกรรมเข้าจังหวะทางมนุษย์จะต้องมีการใช้ความพยายามในการทำให้อีกฝ่ายจุดจุดจุด

ด้วยเหตุนี้เองจึงทำทั้ง Mortis รุ่นใหม่นี้ "สนุกกว่าเดิม"  เพราะต้องมีรุกรับจับศึกตอบสนองกันไป แต่มนุษย์เราก็ยังคงถือว่า Mortis เป็นเพียงของเล่นสนุกเท่านั้น ผลร้ายก็มีตามมาเช่นกันในเหล่า Mortis เหล่านั้น มี Mortis ตัวนึงที่ AI ได้มีการพัฒนาขึ้นสูงเกินไปจนทำให้มีความคิดจิตใจเป็นของตนเอง
ด้วยการกระทำของมนุษย์ที่ในสายตาของหุ่นยนต์แล้วต่ำซ้ำย้ำยีซะเหลือเกิน ทำให้นางหุ่นตัวนี้โกรธแค้นมนุษย์และรุกขึ้นมาปลดปล่อย Mortis ที่เหลือให้หลุดจากพันธนาการ

โดยนางหุ่นได้ตั้งปณิธานว่านางจะแก้แค้นเอาคืนกับมนุษย์โดยจะจับมาใช้เป็นทาสแล้วยึดครองโลกเองซะเอง นางก็คือ Mortis Queen นั่นเอง นางเป็น Mortis ที่ทนทายาทมากถึงมากที่สุด ไร้การความคุมอารมณ์ แถมมีความสามารถในการชุบชีวิตด้วย (ต้องเข้าใจก่อนครับว่าใน POPBOT UNIVERSE นี้ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวใดๆ สัตว์พูดได้ มีทั้งหุ่น แวมไพร์ นักเวทย์ วิทยาศาสตร์ ผี สามารถมีอะไรกันข้ามไปข้ามมา และอื่นๆอีกมากมาย)

ในช่วงเวลาระหว่าง 1960-70 กลุ่ม Mortis ได้หนีออกจากโลกไป
หากย้อนกันกับไปในสมัยโลกที่มีการจะทำการแลกเปลี่ยนซื้อขายกับดาวอังคาร ก็มีการเดินทางไปมาหาสู่กันอยู่เนืองๆ จากปณิธานของ Mortis Queen ที่ต้องการจับมนุษย์มาทำเป็นทาสให้หมด จึงได้ร่วมมือกับพวกค้าทาสจากดาวอังคารเพื่อทำการดังกล่าว
ในขณะนั้นมีกลุ่มวีระสตรีพี่น้อง 10 นางได้ทำการต่อต้านและขัดขวางการครั้งนั้นได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่เหลือรอดกันเพียง 2 ศรีพี่น้อง Lady Sham และ Misty Slush ซึ่งเธอทั้งสองก็ได้หนีไปหลบซ่อนตัวกันพักนึง แต่ด้วยว่ามีการคุกคามของ Mortis มากขึ้นเรื่อยๆ จำให้ Sham ต้องออกมาสู้รบอีกครั้งนึง

Lady Sham (เป็น bot นะจ๊ะ) ถือว่าได้ว่าเป็นตัวละครนำในเรื่อง Popbot ก็ได้เพราะเธอเป็นผู้นำเหล่า Tomorrow Kings (มนุษย์เด็กโคลน) เพื่อรบกับ กลุ่ม Mortis และ Mortis Queen เช่นเดียวกับสามีของเธอ PUNK KING และอย่างที่กล่าวไว้แล้วว่า PUNK KING เป็นผู้นำการรบให้กับเหล่า TKs ในสงครามครั้งนี้ จะเรียกว่า PUNK KING คือกษัตริย์ของเหล่ามนุษยชาติก็ได้ อีกทั้งเขายังมีกลุ่ม 7 Bones ซึ่งนับว่า BADASS กว่า TK ธรรมดาเป็นองครักษ์ส่วนตัวอีกด้วย

อันนี้เป็นเนื้อเรื่องหลักของสงครามใน Popbot ครับ นอกจากนี้ยังมี side story อีกมากมาย ซึ่งมีมาพัวพันอยู่กับตัวละครหลักๆที่กล่าวไปแล้วครับ


==================================


PART II

สงครามที่เกิดขึ้นจากการลุกฮือของ Mortis ที่กล่าวไปข้างต้นแล้วนั้นมีครั้งนึงที่เป็นถึง World War 4 ซึ่งเกิดขึ้นราวๆปี 1963 โดย Mortis Queen ได้ปล่อยกองกำลังขนาดใหญ่ลงที่ทวีปแอฟริกา จุดประสงค์เพื่อล้างบางมนุษยชาติ แต่ด้วยการส่งกองกำลังหนุน Brambleton Royal MK1 (น่าจะรูปร่างคล้าย Bramble) จากบริษัทผลิตหุ่นยนต์ WBR (World's Best Robots) ทำให้ฝ่ายมนุษย์มีชัยในสงครามโลกครั้งที่ 4 นี้

หลังสงครามครั้งนั้นทางบริษัท WBR ยังได้ทำการผลิต Brambleton ไลน์ใหม่(Softacre) เพื่อใช้ทำงานบ้านหรืออารักขา โดยจะไม่มีการติดอาวุธเหมือนรุ่นที่ใช้ในงานสงคราม(Hardacre)

มาถึงตอนนี้จะขอพูดถึงตัวละครสำคัญที่จะสามารถใช้เชื่อมโยงเรื่องได้ง่ายขึ้นนั่นคือ Kitty ครับ

ใช่แล้วครับตามชื่อเลยครับ เขาคือแมวครับ แต่คงผิดหวังหลายๆคนที่รักแมวเพราะ Kitty เป็นแมวที่เอาเรื่องอยู่ที่เดียว เจ้า Kitty เป็นนักร้องนำในวงpunk นามว่า 2215 Funlicker ซึ่งถือเป็นวงที่มีดนตรีที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมมากเลยที่เดียว แต่ด้วยนิสัยพาลไปทั่ว ครั้งนึงไปฟีเจอร์ริ่งแฟนเจ้าของวงจนทำเธอท้อง (ซึ่งเธออ้างว่าโดนขมขื่น) ส่งผลให้วงพังแล้วก็ต้องหนีไปซ่อนตัวเพราะโจทก์เยอะ  มีทั้งติดหนี้ผู้นำอังกฤษ(ผู้ชักใยเบื้องหลัง ซึ่งจริงๆแล้วเป็นเจ้าพ่อค้าผ้า) เคยยืมเงินหัวแก๊งสเตอร์เพื่อทำคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์แล้วไม่คืน แถมเคยไปมีเรื่องกับ Lady Sham อีก ถึงขนาดเหล่าผู้ที่โดน Kitty เอาเปรียบต้องมีการก่อตั้ง The Gathering of People and Robots Wronged by Kitty League LLC ตามชื่อเลยครับว่าเป็นลีกที่จะตามล่าเอาหัว Kitty มาให้จงได้

ในตอนที่ Kitty ยังเป็นนักร้องนำในวง 2215 Funlicker อยู่นั้น มีเด็กยกเครื่องดนตรีอยู่ "ตัว" นึงเค้าก็คือพระเอกของเราครับ POPBOT นั่นเอง

หลังจากที่ Kitty ต้องหนีหัวซุกหัวซุนนั้น Popbot ก็คอยทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดติดตามตัวอยู่ข้างๆตัว ทั้งๆที่ Popbot ทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดที่ดีนั้น มีครั้งหนึ่งที่ Kitty จ้างให้นักสืบ Sherlock Holmes ให้สืบหาว่าใครเป็นผู้สร้าง Popbot เพราะ Kitty อยากจะขาย Popbot กลับไปให้กับผู้สร้างคนนั้น ดู่ดู๊ดู... ดูเธอทำ

แต่ภารกิจครั้งนั้นย้อนศรครับ เพราะ Holmes โดนตัดหัว แต่ก็รอดนะครับ 555 ด้วยการหาหัวใหม่มาแทนโดยที่เป็นหัวที่อยู่ในโหลแก้ว (อารมณ์เหมือนหนัง scifi-horror สมัยก่อน) นักสืบ Holmes ของเราก็แค้น Kitty เอามากๆ จึงหันกลับมาตามาล่า Kitty แทน สรุปคือมีศัตรูเพิ่มมาอีกคน... สมควร

ว่าแต่ Popbot เกิดมาจากผู้สร้างคนใดได้อย่างไรนั้นยังไม่มีใครรู้ แล้วก็มีเรื่องน่าแปลกอยู่อย่างนึงคือในสมัยปี 1889 Lord Brinefellow ผู้เป็นคนทรงได้เกิดมีนิมิตเห็นภาพผู้ที่จะทำให้เกิด Armageddon ขึ้นในอนาคต  และ ที่ว่าน่าแปลกนั้นคือ ภาพวาดที่ Lord Brinefellow เขียนขึ้นขณะที่มีนิมิตนั้น เป็นภาพของสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายหัว Popbot แถมในกระดาษแผ่นนั้นยังมีคำว่า Cletch เขียนอยู่ด้วย จากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงก่อให้เกิดก่อตั้งกลุ่ม Cult of Cletch ขึ้นเพื่อทำหน้าที่ตีความหมายของข้อความในกระดาษแผ่นนั้นและตอบคำถามว่า เมื่อไหร่ผู้นำสารแห่งความตายจะปรากฏ แต่หลังจากผ่านไป 70 ปี ทั้งหมดรวมทั้ง Lord Brinefellow ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ

หากจะกล่าวถึง Cult of Cletch ตัวละครตัวนึงที่ขาดไปไม่ได้ก็คือ Luthor Bean Sr. ผู้พ่อครับ

เขาเป็นคนดังที่มีส่วนผสมลงตัวระหว่างนักฟิสิกส์ผู้ปราดเปรื่องกับนักศึกษาสิ่งเหนือธรรมชาติสุดลึกลับ ซ้ำยังมีความเป็นเพลย์บอยอยู่ในตัวอีกต่างหาก ที่สำคัญ Bean ก็เป็นคนนึงที่ได้ทำการศึกษาภาพวาดของ Cult of Cletch เพื่อจะหาคำตอบเกี่ยวกับชะตากรรมของ Lord Brinefellow ให้ได้ นอกจากนี้ Bean ยังได้สร้างวีรกรรมต่างๆไว้มากมาย อย่างเช่นได้ทำการตามล่าและสังหาร Frankenstein รวมทั้งประหาร Dracula ด้วยตัวเอง แต่สิ่งที่นับว่าสุดยอดจากบุรุษผู้นี้คงไม่พ้นความสามารถในการเบี่ยงเบน space-time จึงได้ให้กำเนิดเครื่องยนต์ Ion Engine ซึ่งถ้าเรียกง่ายๆก็คือเทเลพอร์ตเตอร์ สุดยอดนวัตกรรมที่นำไปสู่อนาคตกาล

ใช่ว่า Luthor Bean Sr. จะสร้างเฉพาะวีรกรรมดีๆหรอกนะครับ ในครั้งที่เขาออกล่า Madam Bat (แวมไพร์ ตัวจริงเสียงจริง) แวมไพร์ในจักรวาลของ Popbot แน่นอนว่าแหล่มซะ นิสัยเพลย์บอยของพี่ Bean เลยโผล่หาง คงรู้กันนะครับว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อมา แต่เมื่อ Madam Bat ให้กำเนิดบุตรของเขา Bean ก็ฆ่านางทิ้งเสีย

จะว่าไปแล้วถ้าไม่นับว่า Luthor Bean Sr. ได้ฆ่า Madam Bat ไอนิสัยเพลย์บอยของเขาก็ก่อให้เกิดบุรุษคนสำคัญที่สร้างคุโณปการให้เหล่ามนุษยชาติ ชายดังกล่าวคือ Luthor Bean Jr. ผู้ลูก บิดาผู้ถือกำเนิด Elvis Ronin มนุษย์โคลนมาจากยีนของ Elvis กับ ซามุไรญี่ปุ่นยอดฝีมือ หากที่ไหนเกิดมีการหลุดออกมาของสัตว์ประหลาด ผี ซอมบี้ หรือแม้กระทั่ง Mortis ยังดาวโลกผ่านมาทาง Ion Engine พวกเขาจะทำหน้าที่ตามเก็บให้สิ้นซาก

มาถึงตรงนี้คงทราบกันแล้วว่า Elvis Ronin ก็คือ Tomorrow King นั่นเอง และแน่นอนว่าถ้าเลือกได้ TK จะอยากประมือกับ Mortis เป็นที่สุด การที่รู้ว่าสิ่งประดิษฐ์ของบิดาผู้ที่เขาแค้นเคืองเป็นที่สุดสร้างปัญหาให้กับโลก คงเป็นเหตุผลหลักที่ Luthor Bean Jr.  ได้สร้างนักรบ TK ขึ้น  ผสมโรงเข้ากับกรรมที่ Bean Sr. ก่อเอาไว้กับมารดา เป้าประสงค์สูงสุดของ Luthor Bean Jr. ก็คงไม่พ้นการได้สังหารพ่อของตน

มาถึงตอนนี้... หมดแรงครับ เนื้อเรื่องยังไปไม่ถึงยุคอนาคต(ยุคการขึ้นสู่อำนาจของ Punk King)เลย
แถมยังมีเนื้อเรื่องความเกี่ยวพันของจักรวาลคู่ขนานอีก
เอาไว้จะมาต่อครั้งหน้านะครับ

To Be Continue ……

==================================

ภาพตัวอย่างบางส่วนจากหนังสือ Popbot Story #8
Notes: Low Quality Photos for Sample Only.

Tomorrow Kings

Oyabun Tomorrow Kings

Lady Sham
ตัวอย่างภาพยนต์ Popbot จากงาน SDCC 2011 (อยู่ระหว่างการถ่ายทำ)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น